ในปัจจุบัน แบตเตอรี่ลิเธียมที่ติดตั้งบนชั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และทุกคนต้องการให้มันใช้งานได้นานขึ้น มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเถอะ
1. การควบคุมอุณหภูมิ:
มันไวต่ออุณหภูมิและเหมาะสมสำหรับการทำงานที่ 15℃-35℃ อุณหภูมิสูงจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เช่น หากไม่มีมาตรการระบายความร้อนในห้องคอมพิวเตอร์ที่มีอุณหภูมิสูง ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่จะลดลงได้ง่าย อุณหภูมิต่ำจะลดกิจกรรมของแบตเตอรี่ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการชาร์จและการปล่อยประจุ และอาจทำให้ไม่สามารถปล่อยประจุได้เลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิในสภาพแวดล้อมการใช้งาน เพื่อให้แบตเตอรี่อยู่ใน "เขตสบาย"
2. การควบคุมการชาร์จและปล่อยประจุ:
หลีกเลี่ยงการชาร์จเกิน เมื่อชาร์จจนเต็มแล้วให้หยุด การชาร์จเกินในระยะยาวจะทำให้แบตเตอรี่บวม แม้ว่าจะมีฟังก์ชั่นปิดอัตโนมัติ แต่คุณควรสังเกตด้วย
หลีกเลี่ยงการปล่อยประจุมากเกินไป และพลังงานไม่ควรต่ำกว่า 20% การปล่อยประจุลึกบ่อยครั้งจะลดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อย่างมาก เช่น แบตเตอรี่ในระบบ UPS จะมีความทนทานลดลงเมื่อทำงานที่พลังงานต่ำ การชาร์จและปล่อยประจุตามมาตรฐานเท่านั้นที่สามารถรักษาสภาพแบตเตอรี่ได้
3. การตรวจสอบเป็นประจำ:
ควรมีนิสัยในการวัดแรงดันไฟฟ้าและความต้านทานภายในของแบตเตอรี่ด้วยเครื่องมือเฉพาะทางเป็นประจำ การทำเช่นนี้ทุกไตรมาสหนึ่งครั้งถือว่าเหมาะสม หากพบความผิดปกติ ให้ตรวจสอบสาเหตุ เช่น การติดต่อไม่ดีหรือการเสื่อมสภาพ
4. การติดตั้งและการเก็บรักษา:
การติดตั้งต้องมั่นคง เพราะแบตเตอรี่มีน้ำหนักมาก ดังนั้นชุดยึดต้องแข็งแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสั่นสะเทือนและการชนที่อาจทำให้โครงสร้างภายในเสียหาย
เมื่อเก็บรักษา ควรชาร์จไฟไว้ที่ 50%-60% หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน และวางในที่แห้ง เย็น และระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันการสูญเสียจากการปล่อยประจุเองและลดความเสี่ยงของการสั้นวงจร
โดยสรุป การบำรุงรักษาจำเป็นต้องเริ่มจากหลาย ๆ ด้าน และการดูแลอย่างละเอียดจะทำให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบพลังงานที่น่าเชื่อถือ